โดยค่าเงินบาทแข็งค่า จะทำให้มีทั้งผู้ได้ประโยชน์และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจต่างๆ ดังนี้

1. กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้น จะทำให้นักท่องเที่ยวแลกเงินบาทได้น้อยลง ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกที่จะไปท่องเที่ยวภูมิภาคอื่น ที่มีค่าเงินถูกกว่าและส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศอีกด้วย

2. กลุ่มแรงงานไทยในต่างแดน หรือคนไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศและส่งเงินกลับมาในประเทศ จะทำให้แลกเป็นเงินบาทได้จำนวนน้อยลง

3. ธุรกิจส่งออก ทั้งธุรกิจที่ส่งออกสินค้าโดยตรงหรือสินค้าที่เป็นวัตุดิบ ซึ่งมีต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่รับเงินดอลล่าห์และมีสาขาอยู่ต่างประเทศ จึงเท่ากับว่าจ่ายเงินมากขึ้นแต่ได้ผลลัพธ์เท่าเดิม ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงและส่งผลต่อการจ้างงาน รวมทั้ง GDP ในระยะยาว

4. ธุรกิจนำเข้า อาจต้องมีเฮ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่มีการนำเข้าสินค้าโดยตรงหรือนำเข้าวัตถุดิบ จะมีต้นทุนที่ต่ำลง จึงเท่ากับว่าได้กำไรมากขึ้นต่อการลงทุนในจำนวนเงินที่เท่ากัน

5. กลุ่มคนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศ การที่ค่าเงินบาทในประเทศแข็งค่า ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ในจำนวนที่สูงขึ้น ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นนั่นเอง

6. นักช็อปปิ้งออนไลน์เว็บต่างประเทศ เช่น Amazon หรือ Ebay ทำให้ซื้อสินค้าต่างประเทศและนำเข้าโดยจ่ายเงินน้อยลงเช่นเดียวกับการนำเข้าสินค้า

       นอกจากนี้เงินบาทแข็งค่า ยังถูกจับตามองจากนักลงทุน ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งด้านดีและด้านที่ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุน รวมทั้งผลักดันให้ธนาคารกลางมีการเคลื่อนไหวเฝ้าระวัง สำหรับผู้ประกอบการที่มีคู่ค้าที่ไม่ได้ใช้สกุลเงินดอลล่าห์ อาจจะพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอัตราอื่นที่มีความผันผวนน้อยกว่า 

       ธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนอาจจะไปได้สวยและถือเป็นโอกาสที่ดีในการนำเข้าสินค้า โดยสามารถเลือกใช้บริการจากบริษัทชิปปิ้ง เช่น Ninjashipping รับนำเข้าสินค้าจากจีนและจัดส่งภายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินบาทยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลกระทบแบบโดมิโนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงและเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่นำเข้าและส่งออกเพื่อที่จะได้นำมาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ต้นทุนหรือกำไรของธุรกิจ