ในปี 2017 คาเฟ่ของสตาร์บัคส์เริ่มรับชำระเงินด้วย Alipay ในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน และได้เปิดตัว Starbucks Reserve Roastery ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นแห่งแรกที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือและประสบการณ์ที่ได้รับการออกแบบโดยอาลีบาบา

ปี 2018 สตาร์บัคส์ได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนค้าปลีกใหม่กับอาลีบาบา เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์กาแฟในประเทศจีน หลังจากนั้นก็ได้ใช้โครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลของอาลีบาบา เช่น Ele.me เพื่อเปิดตัวการส่งมอบถึงหน้าประตูบ้านต่อมาได้แนะนำบริการใหม่คือการสั่งซื้อด้วยเสียงเสียงผ่านทาง Tmall Genie ของอาลีบาบา

ซึ่งก่อนหน้านี้มีให้บริการเฉพาะในแอพมือถือ Starbucks China ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์มของ Alibaba รวมถึงกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ e-wallet Alipay และแผนที่ดิจิตอลการเพิ่มคุณสมบัตินี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มที่ชื่นชอบของพวกเขาและอาหารออนไลน์ล่วงหน้าและไปรับสินค้าที่คาเฟ่ Starbucks ในภายหลัง

ด้านยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ กล่าวว่า การขยายฟังก์ชัน STARBUCKS NOW ทำให้บริษัทสามารถสร้างการเชื่อมต่อผู้บริโภคชาวจีนได้มากขึ้นโดยเข้าสู่ เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งผู้ใช้งานเกือบ 1 พันล้านคน

Starbucks เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เลือกใช้ระบบปฏิบัติการธุรกิจของ Alibaba เพื่อเร่งการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงแบบดิจิทัล โดยเปิดตัวเมื่อต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ระบบปฏิบัติการทางธุรกิจอาลีบาบา หรือ Alibaba Business Operating System (ABOS) เป็นบริการครบวงจรแบบครบวงจรเพื่อช่วยให้แบรนด์ได้ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและทรัพยากรของชุมชน อาลีบาบาได้ดีขึ้น โดยครอบคลุมทั้งการค้าปลีก การจัดการเวิร์กโฟลว์ การชำระเงิน โลจิสติกส์ คอมพิวเตอร์ การสื่อสารการตลาด และบริการ Delivery ในท้องถิ่น และอื่น ๆ

Toby Xu รองประธานของ Alibaba Group กล่าวว่า “การระบาดใหญ่ของ Covid-19 เน้นถึงความสำคัญของระบบดิจิตอลซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีน อาลีบาบามีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างพลังดิจิตอลของบริษัทผ่าน ABOS”

Toby Xu กล่าวเสริมอีกว่า “ด้วยการเป็นหุ้นส่วนนี้เราจะยังคงให้การสนับสนุน Starbucks ในการขยายการให้บริการดิจิทัลทั่วประเทศจีน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการพัฒนาตลอดเวลาและสร้างมูลค่าระยะยาว”

ที่มาข้อมูล : https://www.alizila.com/