ชิปปิ้ง การให้บริการด้านโลจิสติกส์มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่เห็นชัดสุดคือการปรับเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นดิจิตอลแทบจะทั้งหมด เช่น การนำเอา Big Data, IOT ฯลฯ เข้ามาใช้ในการดำเนินงาน
การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในธุรกิจ มีข้อดีตรงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างราบรื่น สะดวก รวดแร็ว และลดข้อผิดพลาดบางประการจากการใช้แรงงานมนุษย์
ปัจจุบันบริการโลจิสติกส์ เป็นธุรกิจหนึ่งที่ได้นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้งาน เพื่อจัดการห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่กระบวนการวางแผน การสั่งซื้อ การจัดส่ง และการเก็บรักษาสินค้าในคลัง เป้าหมายคือเพื่อให้การเคลื่อนย้ายและจัดเก็บผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด โดยหน่วยงานที่ให้บริการ เรียกว่า ‘ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์’ (Parties Logistics) แบ่งการให้บริการหลายรูปแบบตั้งแต่ 1PL-5PL
1PL (First-Party Logistics) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ฝ่ายแรก ━ คือ บริษัท องค์กร หรือบุคคลที่จำเป็นต้องมีการขนส่งสินค้า (ชิปปิ้ง) การขนส่งสินค้าการผลิต หรือการขนส่งสินค้าจากจุด A ไปยังจุด B โดยผู้ผลิตและผู้ส่งออกของสินค้า จะจัดการกับกิจกรรมทั้งหมด โดยที่ใช้แผนกบริษัทของตนเองและทรัพย์สินของตนเอง เช่น รถบรรทุกรถพ่วงคลังสินค้า ฯลฯ
2PL (Second-party Logistics) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่ 2 ━ โดยทั่วไปคือผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เป็นเจ้าของ ที่ดำเนินงานสินทรัพย์ ควบคุม และบริหารการจัดการของธุรกิจของตนเอง เช่น สายการเดินเรือที่เป็นเจ้าของเช่าหรือเช่าเหมาลำเรือ – สายการบินที่เป็นเจ้าของเช่าหรือเช่าเครื่องบิน – และบริษัทรถบรรทุกที่เป็นเจ้าของหรือเช่ารถบรรทุก
ในบางกรณี ผู้ผลิต หรือ ผู้ส่งออกสินค้าอาจใช้ Outsource ในการให้บริการขนส่ง และคลังสินค้า ไปยังผู้ให้บริการโลจิสติกส์
3PL (Third-Party Logistics) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์บุคคลที่ 3 ━ คือผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าจากภายนอกหรือบุคคลที่สาม ให้กับบริษัท ในบางส่วนหรือทั้งหมดของฟังก์ชั่นการจัดการซัพพลายเชน
เมื่อผู้ให้บริการโลจิสติกส์ 2PL ได้รับการแต่งตั้งให้จัดการด้านการขนส่ง และคลังสินค้าที่ดำเนินการให้บริการจากภายนอกบางส่วนหรือทั้งหมด ในเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ให้บริการจะถูกเรียกว่าเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่สาม (3PL)
3PL เป็นรูปแบบทั่วไปที่ใช้ในการจัดส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน อาจรวมถึงบริการอื่นๆ ที่หลากหลาย เช่น การส่งต่อการขนส่งสินค้า – พิธีการศุลกากรฯ – การขนส่งคลังสินค้า – การบรรจุการส่งต่อการขนส่งสินค้า – การเทียบท่าข้าม – และการจัดการฟังก์ชันสินค้าคงคลัง ฯลฯ. ตามคำจำกัดความของผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการซัพพลายเชน
4PL (fourth-party logistics) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่ 4 ━ ในเวลาต่อมา 3PL ค่อยๆ พัฒนาเป็น 4PL เพื่อดำเนินการโซลูชั่นห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมสำหรับลูกค้า เช่น ผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกสินค้า ว่าจ้างการจัดการ การดำเนินงาน การขนส่ง การบริการคลังสินค้า และการจัดการการบริหารจัดการของธุรกิจด้วยตนเอง โดยรูปแบบของ 4PL จะจัดการกับการดำเนินงานของซัพพลายเชนทั้งหมด ลักษณะสำคัญคือ ดำเนินธุรกิจรูปแบบที่ไม่ใช่สินทรัพย์ เนื่องจากไม่มีคลังสินค้าหรือรถบรรทุกหรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่ใช้ในการให้บริการ รวมไปถึงการตรวจสอบกระบวนการโลจิสติกส์
5PL (Fifth-Party Logistics) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่ 5 ━ เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีการวางแผนจัดระเบียบและดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์ในนามของหน่วยงานทางเศรษฐกิจ เป็นรูปแบบโลจิสติกส์อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้เครือข่ายซัพพลายเชน ที่รวบรวมความต้องการของ 3PL และ 4 PL สำหรับการเจรจาอัตรากับผู้ให้บริการรายอื่น เช่น ผู้ให้บริการสายการบิน บริษัทขนส่ง(ชิปปิ้ง) ฯลฯ 5PL ยังมีบริการ Telesales และการชำระเงินออนไลน์ บริการดังกล่าวมีการจัดส่งโดยผู้ประสานงานด้าน E-commerce ทั้งหมด ซึ่งให้บริการโลจิสติกส์หลายช่องทาง แต่ยังมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเครือข่ายผู้ให้บริการจัดส่งฯ
ข้อมูล : https://www.linkedin.com/pulse/difference-between-1pl-2pl-3pl-4pl-5pl-chetak-logistics