1. 74% ของคนยุคนี้ค้นหาข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เมื่อต้องการพิจารณาซื้อสินค้าอะไรบางอย่าง (Tapinfluence)
2. 18% ของการค้นหาสินค้าเมื่ออยู่ต่างจังหวัด จะนำไปสู่การซื้อสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง (Researchgate)
3. 85% ของลูกค้าเริ่มซื้อสินค้าจากอุปกรณ์สื่อสารอย่างหนึ่ง แต่ไปจบที่อุปกรณ์สื่อสารอีกอย่างหนึ่ง (Think with Google)
4. Facebook ยังคงเป็นโซเชียลมีเดียที่ทรงพลังมากที่สุดของการครองสถิติการซื้อขายออนไลน์ โดยปี 2018 พบว่า นักช็อปปิ้งอยู่ในวัย 18-34 ปีถึง 78% และใช้วิธีค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ต้องการในเฟสบุ๊คก่อนเป็นอันดับแรก (Axios)
5. 65% ของผู้บริหารอาวุโส จะคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ หลังจากที่เห็นวีดิโอที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ต้องการใน YouTube (HubSpot)
6. 75% ของลูกค้าให้ความสำคัญกับโฆษณา ที่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายซ้ำอีกครั้ง (Invesp)
7. การช็อปปิ้งทางสมาร์ทโฟน เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมและก้าวกระโดดจาก 8% ไปสู่ 15% ในปี 2019 ในขณะที่การช็อปปิ้งบน PC ร่วงหล่นจาก 78% มาอยู่ที่ 63% (Invesp)
8. การมองเห็นของธุรกิจขนาดเล็กผ่านทางโทรศัพท์มือถือเพิ่มสูงกว่าร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ถึง 30% (Practical Ecommerce)
9. 10% ของนักช็อปปิ้งออนไลน์ ใช้ผู้ช่วยด้านเสียง (อุปกรณ์ยอดนิยมของชาวอเมริกัน) เพื่อทำการซื้อสินค้าบางประเภท (NPR/Marist)
10. มีเพียง 2% ของเจ้าของ Alexa หรือผู้ช่วยอัจฉริยะสั่งการอุปกรณ์ภายในบ้าน เคยใช้มันในการซื้อของออนไลน์ (Forbes)
11. 98% ของข้อความทางการตลาด ที่ถูกส่งผ่าน SMS ถูกเปิดอ่าน (Search Engine Journal)
12. การใช้เสียงในการค้นหาบางอย่างที่คุณต้องการ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นถึง 20% ใน Google App (Social Media Today)
13. ยอดขายสินค้าลดราคาออนไลน์ในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) และวันจันทร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า (Cyber Monday) เพิ่มสูงขึ้น 6% ในปี 2018 และมากกว่า 7.9 พันล้านของยอดขายสินค้าลดราคาออนไลน์เกิดขึ้นแค่ในวัน Cyber Monday (Washington Post)
14. จำนวน 55% ของคนที่ช็อปปิ้งออนไลน์ กล่าวว่า ค่าขนส่งฟรี หรือค่าบริการด้านชิปปิ้งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการตัดสินใจซื้อ (Pixel Union)
15. 69% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีแนวโน้มในการซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ที่ให้ตอบคำถามที่เขาต้องการได้รวดเร็วและใส่ใจ (Blue Corona)
16. ผลการสำรวจจากสถาบันวิจัย Baymard (สถาบันวิจัยการใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ) ในปี 2017 พบว่า 89% ของลูกค้าเลิกใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าออนไลน์ (Visual)
17. 40% ของธุรกิจขนาเล็ก ไม่มีเว็บไซต์ธุรกิจของตัวเอง (Visual Objects)
18. 89% ของผู้ซื้อแบบ B2B (Business-to-Business หมายถึง การที่ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการจากธุรกิจหนึ่ง เพื่อนำไปผลิตต่อด้วยการเพิ่มคุณค่าให้เป็นสินค้าและบริการอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่นำไปอุปโภคหรือบริโภคเอง) จะทำการค้นหาสินค้าออนไลน์เมื่อพวกเขาต้องซื้อสินค้า (Researchgate)
19. 5% ของธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจขนาดกลาง เชื่อว่า การขนส่งฟรีจะเพิ่มกำไรในการขายสินค้า (Mutichannel Merchant)
20. 19% ของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่มีเว็บไซต์ เชื่อว่า ธุรกิจของเขาจะเติบโตขึ้นราว 25% ใน 3 ปีข้างหน้าหรือน้อยกว่านั้นเมื่อมีเว็บไซต์ (Devrix)

ตัวเลขทางสถิติเหล่านี้ ช่วยให้เราเห็นภาพธุรกิจ E-Commerce ได้แบบครอบคลุมในมุมกว้าง อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ฝั่งเอเชีย ธุรกิจช็อปปิ้งออนไลน์ก็ได้รับความนิยมไม่น้อยหน้าจากทางยุโรป ส่งผลให้ธุรกิจ E-Commerce และธุรกิจชิปปิ้งเฟื่องฟู โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าจากจีนนั้น เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในบรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ตลอดจนผู้บริโภครุ่นใหม่ นิยมมองหาความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต สำหรับผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดการสั่งซื้อสินค้าจากจีนได้ที่ วิธีสั่งซื้อสินค้าจากจีนแบบ Step by Step และใช้บริการชิปปิ้ง ขนส่งสินค้าจากจีนมาไทยครบวงจรได้กับเรา Ninjashipping ให้บริการทันใจ ส่งออกทุกวัน รวดเร็วดั่งนินจา